หลายคนมักจะมีเหตุผลในการ หางานออนไลน์ ที่คล้ายคลึงกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วการหางานนั้นก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานที่ผู้หางานมีความสนใจ หรือมีความรู้ ความสามารถ ความถนัดเพิ่มเติม หลายคนมักจะติดปัญหาตรงที่ว่า ส่งไปสมัครงานไปหลายที่แล้วก็ไม่ถูกเรียกตัวเข้ามาสัมภาษณ์สักที พลาดโอกาสที่จะได้งานซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเกิดความท้อและเบื่อหน่ายตามมา
นอกจากนี้ในการสมัครงานแล้วนั้นสิ่งที่คนหางานจะต้องคำนึงถึงเป็นสำคัญคือ ตำแหน่งงานและอาชีพที่มีความเหมาะสมกับตนเอง โดยการเลือกอาชีพที่ตนเองจะต้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่นั้น ควรคำนึงถึงความรู้ ความสามารถและความถนัดเป็นหลัก เพราะหากคุณสมัครงานในตำแหน่งงานที่ไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้านนั้นเลย เมื่อมีโอกาสได้เข้าไปปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรนั้นๆ แล้วก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานตามมาก็เป็นได้ ดังนั้นการเลือกอาชีพให้มีความเหมาะสมกับตนเองคือเป็นสิ่งสำคัญที่คนหางานไม่ควรมองข้าม หรือคิดว่าสมัครงานไปก่อนถ้าได้งานก็ลองเข้าไปทำ ทำไม่ได้ก็ลาออก ซึ่งความคิดเหล่านี้มักจะส่งผลกระทบทั้งต่อตัวผู้สมัครงานเอง และต่อภาพรวมขององค์กรอีกด้วย เพราะแต่ละองค์กรจะต้องเสียต้นทุนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับสมัครหาคนใหม่ หรือพลาดโอกาสที่จะได้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการทำงานจริงๆ เข้ามาร่วมงานก็เป็นได้
สำหรับขั้นตอนในการสมัครงานนั้นส่วนใหญ่แล้วหัวใจสำคัญของการสมัครงานเลยก็คือ ใบสมัครงานหรือเรซูเม่นั้นเอง เปรียบเสมือนเป็นใบเบิกทางให้ผู้คัดเลือกได้ทราบข้อมูลส่วนตัวของคุณมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการศึกษา ประวัติการทำงาน หรือความสามารถพิเศษทางด้านอื่นๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจคัดเลือกผู้สมัครงานท่านนั้นๆ เข้าสู่ขั้นตอนการสัมภาษณ์งานต่อไป ส่วนใหญ่แล้วคนหางานมักจะมองข้ามถึงความสำคัญเกี่ยวกับเอกสารการสมัครงาน เพราะคิดว่าสามารถเข้าไปพรีเซ้นท์ตนเองได้เมื่อถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน หรือคิดว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถส่งเอกสารตามหลังได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วฝ่าย HR จะทำการตรวจสอบข้อมูลของคุณ โดยการกวาดสายตาอ่านรายละเอียดที่คุณทำการเขียนหรือระบุไว้เบื้องต้นเพื่อทำการตัดสินใจ
ความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณได้งาน
– เลือกอาชีพที่เหมาะสมกับตนเอง การทำงานให้เกิดประสิทธิภาพนั้น ต้องเริ่มต้นจากความชอบและความถนัดในสายอาชีพนั้นๆ ของผู้สมัครงานเสียก่อน ซึ่งหากคุณทำการเลือกงานที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ทางด้านงานนั้นเลย ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงานตามมาอีกด้วย ดังนั้นก่อนที่คุณจะสมัครงานควรจะต้องรู้เสียก่อนว่า แต่ละองค์กรนั้นมีระบบการทำงานเป็นอย่างไร รวมถึงคุณสมบัติภาพรวมของพนักงานที่ทางองค์กรอยากได้นั้นเป็นอย่างไร เพื่อลดปัญหาผลกระทบต่างๆ ที่จะตามมาในอนาคตได้อีกด้วย
– รวบรวมผลงาน และใบรับรองต่างๆ ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้การแข่งขันทางด้านการหางานนั้นมีความเข้มข้นขึ้นทุกวัน รวมถึงปริมาณคนว่างงานที่ก็มีเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวันด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากคุณต้องการที่จะได้งานอย่างที่ใจปรารถนานั้น คุณก็ต้องสร้างความแตกต่างให้เหนือกว่าคู่แข่งขันคนอื่นๆ เพื่อให้องค์กรเลือกคุณเข้าทำงาน สำหรับในส่วนของผลงานที่สามารถใช้แสดงให้ผู้ประกอบการมองเห็นถึงความสามารถพิเศษเพิ่มเติมนั้น จะช่วยให้ผู้คัดเลือกตัดสินใจได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
– จัดทำเรซูเม่ของตนเองให้สมบูรณ์แบบ หลากคนมักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญเกี่ยวกับใบสมัครงานเท่าไหร่นัก เพราะคิดว่าถ้าองค์กรต้องการรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็จะติดต่อกลับมาเพื่อสอบถามข้อมูลเอง แต่หารู้ไม่ว่าก่อนที่ผู้คัดเลือกจะทำการติดต่อคุณไปนั้น เค้าจะต้องอ่านข้อมูลและรายละเอียดของคุณในใบสมัครงานเบื้องต้นเสียก่อน ว่าคุณมีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งข้อมูลในเอกสารการสมัครงานนั้น ไม่ควรเขียนข้อความหรือบรรยายข้อมูลมากจนเกินไป ให้เน้นในส่วนของในความสำคัญเพื่อให้ผู้คัดเลือกสามารถทำการอ่านแบบกวาดสายตา และสามารถจับใจความที่น่าสนใจได้ทันที
– เอกสารประกอบการสมัครงานต้องพร้อม สำหรับในส่วนของเอกสารในการสมัครงานนั้น ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก มันเป็นการแสดงถึงการเตรียมความพร้อมของผู้สมัครงานในหลายๆ ด้าน รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการด้วยว่าคุณนั้น มีเอกสารหรือข้อมูลที่ได้เขียนนำเสนอหรือพรีเซ้นท์ตนเองไปนั้นเป็นความจริง ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นมีหลักฐานและสามารถทำการตรวจสอบได้จริง เรียกได้ว่าเป็นการสร้างความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย อีกด้วย
การกำหนดทิศทางของการหางานเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้สมัครงานจะต้องเตรียมความพร้อมและวางแผนการหางานให้ดี เพราะการสมัครงานนั้นไม่ใช่ว่าแค่ส่งเอกสารไปจะถูกนัดเรียกสัมภาษณ์งานทุกคน แต่ผู้สมัครงานเหล่านั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่มีความน่าสนใจและตรงกับความต้องขององค์กรอีกด้วย
